- Services
- Case Studies
- Technologies
- NextJs development
- Flutter development
- NodeJs development
- ReactJs development
- About
- Contact
- Tools
- Blogs
- FAQ
Next.js สอน 14 ขั้นตอนเบื้องต้น: สร้างโปรเจกต์แรกใน 30 นาที

หากคุณอยากเริ่มสร้างเว็บด้วย Next.js แต่ไม่รู้จะเริ่มยังไง บทความนี้คือทางลัดสำหรับมือใหม่ ที่จะพาคุณปูพื้นฐาน Next js สอนแบบเข้าใจง่าย พร้อม 14 ขั้นตอนเบื้องต้นที่จะพาคุณสร้างโปรเจกต์แรกได้ภายใน 30 นาที ไม่ต้องมีประสบการณ์ลึกก็สามารถทำตามได้ แถมยังอธิบายว่าทำไม Next.js ถึงเป็นตัวเลือกที่นักพัฒนาเว็บยุคใหม่ไว้วางใจในปัจจุบันครับ
ทำไมเราถึงควรเลือกใช้ Next.js สำหรับพัฒนาเว็บไซต์

ในการเลือก Framework สำหรับการพัฒนาเว็บไซต์ หนึ่งในตัวเลือกที่ได้รับความนิยมและถูกยกย่องว่าครบเครื่องที่สุดในปัจจุบันก็คือ Next.js ครับ ซึ่งเหตุผลที่ทำให้ Next.js กลายเป็นเครื่องมือหลักของนักพัฒนาหลายคน มาจากความสามารถรอบด้านที่ช่วยยกระดับทั้งประสิทธิภาพและประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์
1. Server-Side Rendering (SSR)
จุดเด่นของ SSR คือการที่ระบบสามารถประมวลผลและเรนเดอร์หน้าเว็บจากฝั่งเซิร์ฟเวอร์ ก่อนส่งผลลัพธ์ให้ผู้ใช้งานโดยตรง สิ่งนี้ช่วยให้เว็บไซต์โหลดเร็วขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และยังส่งผลดีต่อ SEO เพราะเครื่องมือค้นหา สามารถอ่านข้อมูลจากหน้าเว็บที่สมบูรณ์แล้วได้ทันที
2. การสนับสนุน Static Site Generation (SSG)
Next.js ยังรองรับการสร้างเว็บไซต์แบบคงที่ หรือ Static Site Generation (SSG) ซึ่งเหมาะสำหรับเว็บที่เนื้อหาไม่ได้เปลี่ยนแปลงบ่อย เมื่อสร้างหน้าเว็บล่วงหน้าไว้แล้ว ผู้ใช้ก็จะสามารถเข้าถึงเนื้อหาได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่ต้องรอการประมวลผลซ้ำทุกครั้ง
3. การพัฒนาแบบ Full-Stack
การที่ Next.js เปิดโอกาสให้นักพัฒนาสร้างแอปพลิเคชันแบบ Full-Stack ได้ในโปรเจกต์เดียว เนื่องจากมีระบบ API Routes ในตัว ทำให้สามารถเขียนฟังก์ชันฝั่งเซิร์ฟเวอร์ ควบคู่ไปกับการสร้างหน้าเว็บได้เลย ลดทั้งความซับซ้อนและเวลาที่ใช้ในการพัฒนา
4. ระบบ Routing อัตโนมัติ
ในแง่ของการจัดการ Routing นั้น Next.js มีระบบ Routing อัตโนมัติ โดยอ้างอิงจากโครงสร้างโฟลเดอร์ เพียงสร้างไฟล์ใหม่ก็สามารถกลายเป็นหน้าใหม่ได้ทันที โดยไม่ต้องเสียเวลาตั้งค่าซับซ้อน
5. รองรับเทคโนโลยีล่าสุด
นอกจากนี้ Next.js ยังรองรับเทคโนโลยีล่าสุดของ React อย่างเต็มรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น React Suspense หรือ Concurrent Mode ช่วยให้การพัฒนาเว็บแอปที่ซับซ้อน และมีประสิทธิภาพสูงทำได้ง่ายขึ้น
6. ชุมชนและเอกสารประกอบที่แข็งแรง
สิ่งที่ทำให้ Next.js เป็นที่ไว้วางใจของนักพัฒนาอีกประการหนึ่งก็คือ ชุมชนและเอกสารประกอบที่แข็งแรง ทั้งคู่ช่วยให้การเรียนรู้, การค้นหาความรู้เพิ่มเติม หรือแม้กระทั่งการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างการพัฒนาเป็นไปได้อย่างราบรื่น
7. การปรับแต่งและขยายตัวง่าย
Next.js มีความยืดหยุ่นสูง นักพัฒนาสามารถปรับแต่งการตั้งค่าได้ตามต้องการ รวมถึงการเชื่อมต่อกับระบบภายนอก เช่น CMS, ระบบยืนยันตัวตน หรือแม้กระทั่งการปรับแต่งการทำงานของ Webpack เพื่อให้เหมาะสมกับลักษณะของโปรเจกต์
สิ่งเหล่านี้ทำให้ Next.js ไม่ได้เป็นเพียง Framework สำหรับสร้างเว็บไซต์เท่านั้น แต่เป็นเครื่องมือที่ช่วยยกระดับการพัฒนาเว็บให้ทั้งรวดเร็ว ยืดหยุ่น และตอบโจทย์ทั้งผู้ใช้งานและนักพัฒนาอย่างแท้จริง
Next js สอนใช้งาน กับ 14 ขั้นตอนเบื้องต้น สร้างโปรเจกต์ Next.js แรกใน 30 นาที

1. ติดตั้ง Node.js และสร้างโปรเจกต์ใหม่
ดาวน์โหลดและติดตั้ง Node.js จากนั้นใช้คำสั่ง npx create-next-app my-app เพื่อสร้างโปรเจกต์ Next.js โดยคำสั่งนี้จะสร้างโปรเจกต์พร้อมโครงสร้างที่จำเป็นทั้งหมด
2. เข้าสู่โฟลเดอร์โปรเจกต์
กรอกคำสั่ง cd my-app เพื่อเริ่มทำงานภายในโปรเจกต์ที่สร้างขึ้นมา
3. เรียนรู้โครงสร้างโปรเจกต์เบื้องต้น
- pages/ : คำสั่งนี้จำทำให้ไฟล์ในนี้จะกลายเป็นหน้าเว็บอัตโนมัติ
- public/ : เก็บรูปภาพหรือไฟล์ Static
- styles/ : เก็บ CSS
- package.json : เก็บ Dependency และ Script ของโปรเจกต์
4. เรียกใช้งานโปรเจกต์ในเครื่อง
ใช้งานคำสั่ง npm run dev แล้วเปิด http://localhost:3000 จะทำให้เห็นหน้าแรกของ Next.js
5. แก้ไขหน้าแรก
เปิดไฟล์ pages/index.js แล้วแก้ข้อความ หรือโค้ดเพื่อปรับเนื้อหาของหน้าแรก
6. เพิ่มหน้าใหม่
สร้างไฟล์ pages/about.js แล้วเพิ่มโค้ดง่าย ๆ เช่น
export default function About() {
return <h1>About Page</h1>
}
7. ลิงก์นำทางระหว่างหน้า
ใช้ next/link เพื่อสร้าง navigation
import Link from “next/link”;
export default function Home() {
return (
<div>
<h1>Home</h1>
<Link href=”/about”>Go to About</Link>
</div>
);
}
8. สร้าง Component ง่าย ๆ
สร้างโฟลเดอร์ components/ แล้วเพิ่มไฟล์ เช่น Navbar.js
export default function Navbar() {
return <nav>My Navbar</nav>
}
จากนั้น import มาใช้ใน pages/index.js หรือหน้าอื่น ๆ
9. การจัดการข้อมูลเบื้องต้น
ลองสร้าง Array ของข้อมูลแล้ว render ด้วย .map() เช่นรายการสินค้า หรือโพสต์ตัวอย่าง
10. การใช้งาน Static Generation
ใช้ getStaticProps เพื่อดึงข้อมูลมาตอน Build Time
export async function getStaticProps() {
return {
props: { message: “Hello from SSG” },
};
}
11. การใช้งาน Server-side Rendering

ใช้ getServerSideProps เพื่อดึงข้อมูลสดใหม่ทุกครั้งที่มีการร้องขอ
export async function getServerSideProps() {
return {
props: { time: new Date().toISOString() },
};
}
12. การเพิ่ม CSS Styling
ใช้ไฟล์ CSS ใน styles/ หรือใช้ CSS Module เช่น Home.module.css หรือจะใช้ Tailwind CSS ก็สามารถติดตั้งและใช้งานได้ง่ายกับ Next.js
13. การปรับปรุงและดีบักโปรเจกต์
ใช้ console.log() เพื่อตรวจสอบค่า แล้วเปิด DevTools ในเบราว์เซอร์ จากนั้นใช้ Hot Reload ของ Next.js ที่จะอัปเดตหน้าอัตโนมัติเมื่อบันทึกโค้ด
14. การเตรียมโปรเจกต์สำหรับนำไปใช้งานจริง
สร้าง Build สำหรับ Production
npm run build
npm start
หรือ Deploy ได้ง่าย ๆ บน Vercel ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่ทีม Next.js พัฒนาขึ้นมาเอง
รวมคำถามที่พบบ่อยใน Next.js สอนใช้งาน
1. ทำไมต้องใช้ Next.js แทน React ธรรมดา?
เพราะ React เป็นไลบรารีสำหรับสร้าง UI เท่านั้น ยังไม่มีระบบจัดการ Routing, SSR/SSG หรือ API มาให้ในตัว แต่ Next.js เป็น Framework ที่สร้างบน React โดยเพิ่มความสามารถที่ React ไม่มี เช่น
- Routing อัตโนมัติ
- Server-Side Rendering (SSR)
- Static Site Generation (SSG)
- การสร้าง API Routes
- การ Optimize Performance และ SEO ได้ดีกว่า
หากกล่าวโดยสรุปก็คือ ถ้าใช้ React คุณจำเป็นจะต้องเซ็ตระบบเองหลายอย่าง แต่ Next.js รวมทุกอย่างมาให้ครบพร้อมใช้งานแล้วครับ
2. วิธีอัปเดต Next.js เป็นเวอร์ชันล่าสุด
- ตรวจสอบเวอร์ชันที่ใช้อยู่ด้วยคำสั่ง npm list next
- จากนั้นอัปเดต Next.js เป็นเวอร์ชันล่าสุดด้วยคำสั่ง npm install next@latest react@latest react-dom@latest
- แล้วจึงตรวจสอบว่าโปรเจกต์ทำงานปกติด้วยคำสั่ง npm run dev
- ถ้าเจอปัญหา Breaking Changes ให้เช็กที่เอกสาร Next.js Upgrade Guide ได้เลยครับ
3. การจัดการ Routing และ API ใน Next.js
การจัดการ Routing ใน Next.js ให้ใช้ file-based routing แล้วไปที่ไฟล์ในโฟลเดอร์ pages/ จะกลายเป็นเส้นทางอัตโนมัติ ยกตัวอย่างเช่น
- pages/index.js ไป /
- pages/about.js ไป /about
- pages/blog/[id].js ไป Dynamic Route /blog/1, /blog/2 เป็นต้น
ส่วนการจัดการ API ใน Next.js ให้สร้างไฟล์ใน pages/api/ เพื่อสร้าง API ได้เลย เช่น pages/api/hello.js
export default function handler(req, res) {
res.status(200).json({ message: “Hello API” })
}
ซึ่งจะเข้าถึงได้ที่ http://localhost:3000/api/hello
สิ่งเหล่านี้ทำให้ Next.js ใช้ได้ทั้ง Frontend และ Backend ในโปรเจกต์เดียวนั่นเองครับ
สรุป

next js สอนเพียงแค่ 30 นาที กับ 14 ขั้นตอนเบื้องต้น คุณก็สามารถมีโปรเจกต์ Next.js แรกเป็นของตัวเองได้ พร้อมเข้าใจพื้นฐานสำคัญ ทั้งการใช้งาน SSR, SSG, Routing และการจัดการ API แบบ Full-Stack ไม่ว่าคุณจะเป็นมือใหม่หรืออยากลองเทคโนโลยีใหม่ ๆ นี่คือจุดเริ่มต้นที่คุ้มค่า เพียงแค่เริ่มต้นเรียนรู้ในวันนี้ คุณก็จะพบว่า Next.js นั้นไม่ใช่แค่เทรนด์ แต่คืออนาคตของการพัฒนาเว็บไซต์ที่ก้าวทันโลกซึ่งหมุนเร็วกว่าสมัยก่อนนั่นเองครับ
และหากใครที่กำลังมองหาบริการรับทำเว็บไซต์ Next.js สำหรับ Web Application ที่มีประสบการณ์มาอย่างโชกโชนในสายงานดังกล่าว พวกผม Till it’s done ยินดีให้บริการ การันตีด้วยประสบการณ์กว่า 10 ปี และผลงานเว็บไซต์ที่ใช้งานได้จริงพร้อมดีไซน์สวยงามกว่า 60 โครงการ ไม่ว่าจะเป็น Vote66, เว็บไซต์พรรคก้าวไกลสำหรับการเลือกตั้งในปี 2566, ระบบการจัดการต้นทุน และการติดตามพนักงานของแดชบอร์ด Foodhub รวมไปถึงระบบเว็บไซต์ของตลาดไท
โดยหากสนใจ สามารถติดต่อได้ที่เว็บไซต์ของของพวกผม Till it’s done หรือทางอีเมลล์ rick@tillitsdone.com นี้ได้เลยนะครับ






Talk with CEO
We'll be right here with you every step of the way.
We'll be here, prepared to commence this promising collaboration.
Whether you're curious about features, warranties, or shopping policies, we provide comprehensive answers to assist you.