- Services
- Case Studies
- Technologies
- NextJs development
- Flutter development
- NodeJs development
- ReactJs development
- About
- Contact
- Tools
- Blogs
- FAQ
จุดเด่นของ React JS คือ ดียังไงกับการทำ Mobile App

ในยุคนี้ที่ Mobile Application นั้นเฟื่องฟู การแข่งขันในตลาดเองก็ยิ่งถีบตัวสูงขึ้นเพื่อให้ได้ฐานลูกค้าเข้ามาใช้งาน และหนึ่งในสิ่งสำคัญของการเลือกใช้ Mobile Application ของผู้คนก็คือ UI ที่ดูโดดเด่น นั่นทำให้ React JS คืออีกหนึ่งเครื่องมือสำคัญของ Mobile App Developer นั่นเองครับ แต่อะไรคือจุดเด่นของเครื่องมือชนิดนี้ มันแตกต่างจากเครื่องมืออื่น ๆ อย่างไร Till it’s done ของพวกผมได้หาคำตอบมาให้แล้วในบทความด้านล่างนี้ครับ
แนวคิดในการทำงานของ React.JS คืออะไร

React.js เป็นไลบรารีในการสร้าง UI สำหรับเว็บไซต์และแอปพลิเคชันแบบ Single Page Application ซึ่งเน้นการพัฒนา UI ที่สามารถปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
1. Component-Based Architecture
โดย React จะแบ่ง UI ออกเป็นส่วนย่อย ๆ หรือ Component ซึ่งเป็นโมดูลอิสระที่สามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้ ซึ่ง Component เหล่านี้สามารถประกอบกันเพื่อสร้าง UI ที่ซับซ้อน
นอกจากนี้ แต่ละ Component ก็จะมี State และ Props ของตัวเอง ทำให้สามารถจัดการและอัปเดตข้อมูลได้อย่างแยกส่วนกัน
2. Virtual DOM
React จะสร้างสำเนาของ DOM ในหน่วยความจำที่เรียกว่า Virtual DOM เพื่อเปรียบเทียบการเปลี่ยนแปลงของ UI และเมื่อมีการอัปเดตข้อมูล React จะทำการเปรียบเทียบ Virtual DOM กับ DOM จริงในเบราว์เซอร์ แล้วคำนวณเฉพาะส่วนที่เปลี่ยนแปลง จากนั้นอัปเดต DOM จริงอย่างมีประสิทธิภาพ
วิธีเหล่านี้จะช่วยลดการทำงานของ DOM ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของความช้าบนเว็บเพจ ทำให้ UI รีเฟรชได้รวดเร็วขึ้น
3. Unidirectional Data Flow
ข้อมูลใน React จะไหลจาก Parent ไป Child เท่านั้น ซึ่งทำให้โครงสร้างของข้อมูลเป็นระเบียบและง่ายต่อการติดตาม โดยการไหลของข้อมูลแบบนี้ จะช่วยลดความซับซ้อนในการจัดการข้อมูลและดีบัก
4. JSX
React ใช้ JSX ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่าง JavaScript กับ HTML เข้าไว้ด้วยกัน ทำให้นักพัฒนาสามารถเขียนโค้ด UI ได้ง่ายและเข้าใจง่ายขึ้น ซึ่ง JSX จะถูกแปลงเป็น JavaScript โดยเครื่องมือ เช่น Babel ก่อนที่จะรันบนเบราว์เซอร์
5. Lifecycle Methods
React คอมโพเนนต์มีช่วงเวลาการทำงานต่าง ๆ เช่น Mount, Update หรือ Unmount ทำให้นักพัฒนาสามารถเขียนฟังก์ชันเพื่อจัดการกับเหตุการณ์ต่าง ๆ ในแต่ละช่วง เช่น componentDidMount, componentDidUpdate หรือ componentWillUnmount ได้
6. React Hooks
Hooks เป็นฟังก์ชันที่เพิ่มเข้ามาใน React ตั้งแต่เวอร์ชัน 16.8 เพื่อให้สามารถใช้งาน State และ Lifecycle Methods ในคอมโพเนนต์ฟังก์ชันได้ ตัวอย่างเช่น useState สำหรับจัดการ State, useEffect สำหรับจัดการผลข้างเคียง (side effects) และอื่น ๆ
จุดเด่นของการใช้งาน React JS คือ

1. Efficiency
React JS ถูกออกแบบมาเพื่อให้การสร้างแอปพลิเคชันเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ โดยใช้ Virtual DOM ซึ่งเป็นสำเนาเสมือนของ DOM จริง ทำให้ React สามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงและอัปเดตเฉพาะส่วนที่เปลี่ยนแปลงจริง ๆ เท่านั้น
สิ่งนี้ส่งผลให้การเรนเดอร์หน้าเว็บรวดเร็วและตอบสนองได้ดีขึ้น ลดการทำงานที่ไม่จำเป็นลง ซึ่งทำให้แอปพลิเคชันทำงานได้อย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพสูง
2. Reusable Components
React ส่งเสริมแนวคิดของการสร้าง Component ซึ่งเป็นหน่วยย่อยของ UI ที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ในหลาย ๆ หน้าหรือหลายโปรเจกต์ ช่วยลดความซ้ำซ้อนในการเขียนโค้ด พร้อมเพิ่มความสะดวกและรวดเร็วในการพัฒนา รวมถึงง่ายต่อการบำรุงรักษาและอัปเดตในอนาคต
3. Community & Ecosystem
React มีชุมชนผู้ใช้งานและนักพัฒนาขนาดใหญ่มาก ซึ่งทำให้มีทรัพยากร คำแนะนำ และเครื่องมือเสริมต่าง ๆ มากมาย และระบบนิเวศของ React ก็มีไลบรารีและ Framework ต่าง ๆ ที่สนับสนุนการพัฒนา เช่น Redux, React Router, Next.js ฯลฯ ซึ่งช่วยให้การพัฒนาแอปพลิเคชันเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและง่ายยิ่งขึ้น
4. SEO-Friendly
แม้ว่า React จะเป็น JavaScript Framework ที่ทำงานบนฝั่ง Client แต่ก็สามารถทำให้เว็บไซต์เป็นมิตรกับ SEO ได้ดีขึ้น โดยใช้เทคนิคเช่น Server-Side Rendering กับ Next.js หรือการใช้ Static Site Generation ซึ่งช่วยให้เนื้อหาเว็บไซต์ถูกโหลดและแสดงผลได้รวดเร็วขึ้นและเป็นมิตรกับ SEO มากขึ้น
5. React Native
React ไม่ได้จำกัดอยู่แค่การสร้างเว็บเท่านั้น แต่ยังสามารถนำไปใช้สร้างแอปพลิเคชันบนมือถือได้ด้วย React Native ซึ่งเป็น Framework ที่พัฒนาขึ้นโดยทีมงานของ Facebook
นั่นจึงทำให้ React สามารถเขียนโค้ดแบบเดียวกันเพื่อสร้างทั้งแอปพลิเคชัน Android และ iOS ได้ ช่วยลดเวลาและค่าใช้จ่ายในการพัฒนาแอปพลิเคชันบนแพลตฟอร์มต่าง ๆ
จุดด้อยของการใช้งาน React.JS คือ

1. Complexity
React.js เป็นไลบรารีที่มีความสามารถและความยืดหยุ่นสูง ซึ่งอาจทำให้เกิดความซับซ้อนในด้านการเรียนรู้และการจัดการโครงสร้างของแอปพลิเคชัน โดยเฉพาะกับผู้เริ่มต้น อาจต้องใช้เวลาในการเข้าใจแนวคิดเกี่ยวกับ Component, State หรือ Props
นั่นยังรวมไปถึงแนวทางการจัดการข้อมูลและการนำไปใช้ร่วมกับเครื่องมือต่าง ๆ เช่น Redux หรือ Context API ซึ่งอาจทำให้การพัฒนามีความซับซ้อนมากขึ้น
2. SEO Challenges
React.js เป็นไลบรารีที่เน้นการสร้าง UI แบบ Client-Side Rendering ซึ่งหมายความว่าเนื้อหาของหน้าเว็บจะถูกสร้างขึ้นในเบราว์เซอร์หลังจากโหลดหน้าแล้ว และอาจส่งผลต่อการจัดอันดับของเว็บไซต์ในเครื่องมือค้นหา
อันเนื่องมาจากเครื่องมือค้นหาบางตัวอาจไม่สามารถเก็บข้อมูลหรือประมวลผล JavaScript ได้ดีเท่ากับการทำ Server-Side Rendering จึงต้องใช้เทคนิคเสริม เช่น Next.js หรือการทำ Server-Side Rendering เพื่อแก้ไขปัญหานี้
3. Limited Opinionated Ness
React.js ไม่มีแนวทางหรือโครงสร้างที่ชัดเจนในการสร้างแอปพลิเคชัน ทำให้ผู้พัฒนามีอิสระสูงในการเลือกใช้เครื่องมือและแนวทางต่าง ๆ ซึ่งดีในแง่ความยืดหยุ่น แต่ก็อาจทำให้โค้ดมีความสับสนหรือไม่เป็นมาตรฐานเมื่อโปรเจกต์มีขนาดใหญ่ หรือทีมพัฒนามีหลายคน การไม่มีแนวทางชัดเจน อาจทำให้ต้องใช้เวลาในการตัดสินใจและสร้างความสอดคล้องในโค้ด
4. Boilerplate Code
การสร้าง React Component หรือการตั้งค่าระบบมักต้องเขียนโค้ดซ้ำ ๆ หรือใช้โครงสร้าง Boilerplate ที่มากพอสมควร โดยเฉพาะเมื่อใช้งานร่วมกับ Framework หรือไลบรารีเสริม ซึ่งอาจทำให้โค้ดดูยุ่งยากและเพิ่มเวลาในการพัฒนา และอาจทำให้เกิดความผิดพลาดได้ง่ายขึ้น
5. Frequent Updates
React.js มีการอัปเดตและปล่อยเวอร์ชันใหม่บ่อยครั้ง ซึ่งอาจทำให้ผู้พัฒนาต้องปรับปรุงและอัปเดตโค้ดของตนเองอยู่เสมอ เพื่อให้เข้ากับเวอร์ชันล่าสุด ซึ่งอาจเป็นภาระและสร้างความยุ่งยากในการบำรุงรักษาโปรเจกต์ รวมถึงอาจทำให้เกิดปัญหา Compatibility กับเครื่องมือหรือไลบรารีอื่น ๆ ได้
สรุป
React.JS เป็นเครื่องมือที่สำคัญสำหรับ Mobile Application Developer เนื่องจากตัวของมันเน้นไปที่การสร้าง UI ที่โดดเด่นและใช้งานง่ายในตลาดที่มีการแข่งขันสูง ซึ่งโดยรวมแล้ว React JS คือเครื่องมือที่ทรงพลัง และได้รับความนิยมสูงจากนักพัฒนาจำนวนมาก แต่ก็มีข้อควรระวังในเรื่องความซับซ้อนและการอัปเดตที่บ่อยครั้งอยู่เช่นเดียวกัน
แต่หากใครที่กำลังมองหา Software House ที่มีประสบการณ์ในด้านการบริการพัฒนา Mobile Application ด้วย React.JS อยู่ล่ะก็ พวกผม Till it’s done เป็นบริษัท Software House ที่มีประสบการณ์ภายในสายงานกว่า 10 ปี และผลงานแอปพลิเคชันที่ใช้งานได้จริงอย่าง Ecommerce Application, แอปพลิเคชันระบบทะเบียนราชการ, Chat Application, Infographic Application และ Finance Application
ซึ่งหากสนใจ สามารถติดต่อได้ที่เว็บไซต์ของของพวกผม Till it’s done หรือทางอีเมลล์ rick@tillitsdone.com นี้ได้เลยนะครับ






พูดคุยกับซีอีโอ
We'll be right here with you every step of the way.
We'll be here, prepared to commence this promising collaboration.
Whether you're curious about features, warranties, or shopping policies, we provide comprehensive answers to assist you.